คำศัพท์สำคัญ

SEO

(Search Engine Optimization)

SEO คือชื่อในการเรียก กระบวนการทั้งหมด ของการปรับแต่งคุณภาพเว็บไซต์ เพื่อการทำให้ติดอันดับที่ดี บนผลการค้นหาของ Search Engine ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ

  1. Search Engine = เว็บไซต์สารบัญการค้นหา เช่น Google, Bing, YouTube
  2. Optimization = การปรับแต่ง ปรับปรุง ให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

Search Engine

(เสิร์ชเอนจิน)

Search Engine เป็นโปรแกรมสารบัญเว็บไซต์ เพื่อใช้สำหรับค้นหาข้อมูล ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการค้นหาข้อมูลจำนวนมากในโลก Internet โดยหลักการทำงานคือการเก็บรวบรวมข้อมูล แล้วนำมาจัดทำเป็นระบบสารบัญ คล้ายๆ กับระบบของห้องสมุด ในปัจจุบันมีผู้ให็บริการ Search Engine มากมาย แต่ที่ดังที่สุดในประเทศไทยและของโลกก็คือ Google

Anchor text

Anchor text คำศัพท์แปลไทยไม่มีนะ แต่มันคือแท็ก <a href=””> นั่นแหละ หรือพูดง่ายๆ ก็คือข้อความที่อยู่ใน Link บนเว็บไซต์ครับ ตัวอย่างเช่น <a href=”https://www.plus.in.th”>เอสอีโอพลัส</a> สำหรับ Code นี้ถ้าแสดงผลจะเป็น เอสอีโอพลัส ซึ่งสามารถคลิกไปยัง URL นั้นๆ ได้ เราเรียกข้อความว่า “เอสอีโอพลัส” นี่แหละว่า Anchor text

Title tag

(ไตเติ้ลแท็ก)

สำหรับคนทำเว็บไซต์จะรู้กันดี แต่สำหรับคนทำ SEO ในส่วน Title tag นั้นสำคัญมากๆ หากดูจากโครงสร้างแล้วจะอยู่ใน <title>….</title> ซึ่งเราสามารถเขียนอะไรลงไปก็ได้ แล้วเวลา Google เข้ามาอ่านข้อความในแท็กนี้ เขาก็จะแสดงผลบนผลการค้นหาแบบนี้

(ในส่วนที่ Hilight สีเหลืองๆ นั่นแหละคือส่วนการแสดงผลของ Title tag)

Meta description

(เมต้าเดสคริปชั่น)

Meta Description ต่อจาก Title tag ของข้อด้านบนเลยครับ แต่การแสดงผลในปัจจุบัน อาจจะแสดงผลบนผลการค้นหา ต่อจาก URL หรืออาจไม่แสดงผลแล้วก็ได้ แต่ควรใส่ในข้อความบนเว็บไซต์ลงไป สามารถใส่ได้ใน tag <head> โดยมี Code การใส่ว่า

<meta name=”description” content=”______” />

301 Redirect

(รีไดเร็ค 301)

การ Redirect 301 คือรูปแบบหนึ่งของการส่งผู้เข้าชมเว็บไซต์ ไปยังหน้าอื่นๆ ตามที่เราต้องการ แต่การ Redirect 301 จะต่างกับการ Redirect เลขอื่นๆ ตรงที่ 301 คือการส่งผลคะแนนทาง SEO ตามไปด้วย ตัวอย่างเช่น

หน้า www.plus.in.th/aa/ เวลาคนเข้าให้ส่งไปหน้า www.plus.in.th/bb/ ทันที
การกระทำแบบนี้คะแนน SEO ทั้งหมดของหน้า /aa/ จะถูกส่งไปยังหน้า /bb/ ในทันที

Redirect 301 นิยมใช้สำหรับการปิด/ลบ หน้าบนเว็บไซต์บางหน้า แล้วไม่อยากสูญเสียคะแนนทาง SEO ที่เคยทำไว้ ดังนั้นจึงทำการ Redirect ไปยังหน้าอื่นๆ ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันแทน

ความรู้เสริมการ Redirect

  • 301 Permanent Redirect
  • 302 Found = คล้ายๆ กับแบบ 301 แต่ว่ามีไว้ใช้เพื่อเปลี่ยนแบบชั่วคราว
  • 303 See Other = ส่วนใหญ่จะใช้กับการเปลี่ยน Domain
  • 307 Temporary = เปลี่ยนหน้าพร้อมส่งตัวแปร POST ไปด้วย

** เอาเป็นว่า สนใจแค่ 301 ก็พอละครับ ที่เหลือเป็นระดับ Server ซึ่งในเชิง SEO แทบไม่มีการใช้งานเลย

SERP

(Search Engine Results Page)

SERP พูดง่ายๆ มันก็คือหน้าแสดงผลการค้นหาแหละครับ ที่หลังจากเราใส่คำค้นหาลงไป แล้วกดค้นหา หน้าที่แสดงผลเว็บไซต์ 1-10 (รวมโฆษณา) หน้านี้แหละเราเรียกว่า SERP

Keyword

(คำค้นหา)

Keyword ใช้บ่อยมากครับ ในวงการ SEO โดยส่วนใหญ่แล้วคือ คำค้นหาที่ต้องการทำอันดับ ซึ่งจะแบ่งย่อยได้อีกเช่น Keyword หลัก, Keyword รอง, Longtail Keyword โดยคำค้นหาเหล่านี้แหละ คือหัวใจหลักของการพิจารณาความเป็นไปได้ในการทำอันดับเลยครับ เพราะบาง Keyword นั้นทำยากมาก โดยเฉพาะ Keyword สั้นๆ เช่น บ้าน, รถ, เสื้อผ้า

Indexing

(ติด Index)

การ Indexing หมายถึงการที่ หน้าเว็บไซต์ของเราติดการค้นหาบน Search Engine ครับ โดยปกติแล้ว การที่จะ Indexing ได้นั้น จะต้องให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูลบนหน้านั้นๆ ของเว็บไซต์เราก่อน แล้วอีกซักพักจึงจะไปแสดงผลบนการค้นหา โดยวิธีการเข็คว่า หน้านั้นๆ Indexing แล้วหรือยัง สามารถพิมพ์ได้บน Google ว่า

site:__(ชื่อ URL นั้น)__ เช่น site:plus.in.th/faqs

ถ้าหากว่า Indexing แล้ว ในหน้าจะแสดงผลตามภาพด้านบนเลย แต่หากว่าไม่พบ หรือยังไม่ Indexing จะแสดงผลตามภาพด้านล่างครับ

Links

(ลิงก์)

Links ก็คือ ลิงก์ (การเขียนที่ถูกต้อง ตามหลักเกณฑ์ของราชบัณฑิตสถานต้องทับศัพท์ว่า ลิงก์) ไม่ใช่ ลิงค์ นะครับ พูดง่ายๆ ก็คือ ประเภทคำ/ข้อความ/รูปภาพ ในหน้า Website ที่เป็นช่องทางการเชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเรียกกันว่า Hyperlinks ในทาง SEO เรารู้แค่ 2 แบก็พอแล้วคือ

  • Text Link ลิงก์แบบข้อความ
  • Image Link ลิงก์แบบ  (รูปภาพ)

Canonical URL

(Canonical Tags)

Canonical URL คือการบอก Search Engine ให้รู้ว่า เว็บไซต์หน้านั้นๆ คล้ายกับหน้าอื่นๆ อีกหรือไม่ เพื่อป้องกันการ Duplicated หรือการเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อน จะทำให้โดนหักคะแนนทาง SEO ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับเว็บเพจที่มีหลายๆ หน้า เช่น กรณีหน้าอ่าน มีหน้าหลัก/หน้า 2 (อ่านต่อ)/หน้า 3 (อ่านต่ออีกที) แบบนี้ในหน้า 2 และ 3 เราจะต้องใส่ Canonical URL ระบุว่าคือหน้าแรก เพื่อป้องกันการเก็บข้อมูลซ้ำซ้อน

แต่โดยทั่วไปแล้ว การใช้ Canonical URL มักใช้กับเว็บไซต์ที่มี 2 ภาษาขึ้นไป